การเพิ่มขึ้นของบริษัทระดับนานาชาติกำลังเริ่มที่จะพบเจอกับความท้ายทายของการลงทุนที่มีประสิทธิภาพให้กับหนึ่งในทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดของพวกเขา เหล่าพนักงาน
ปัญหาสุขภาพจิต การจัดการความเครียดที่ไม่ดีพอ และความไม่ยืดหยุ่นของเวลาทำงานกำลังก่อปัญหาให้กับทั้งความเป็นอยู่ของทั้งพนักงานและองค์กร สถาบันการลงทุนกำลังเริ่มหันมาโฟกัสกับการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ในฐานะที่เป็นหนึ่งในความเสี่ยงหลัก เมื่อไม่นานมานี้ Jay Clayton ประธานบริษัท SEC ได้กล่าวว่า เขาต้องการให้เหล่าบริษัทมหาชนแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพนักงานเอาไว้ให้อยู่กับองค์กร อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่จะทำให้การเก็บข้อมูลเป็นไปได้ยากก็คือตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพ นักลงทุน บริษัทต่างๆ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ กำลังให้ความสนใจที่มากขึ้นกับประเด็นสำคัญประเด็นนี้ แต่จนถึงทุกวันนี้ พวกเขาก็ยังล้มเหลวที่จะให้ความหมาย วัดผล และวัดมูลค่าของทรัพยากรมนุษย์
เมื่อมีการตระหนักรู้ที่มากขึ้นต่อผลกระทบทางการเงินที่มาพร้อมกับการเติบโตของทรัพยากรมนุษย์ในปี 2020 และเหล่านักลงทุนเองก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากขึ้น เราคาดหวังที่จะได้เห็นบริษัทจำนวนมากขึ้นให้ความสำคัญกับการลงทุนต่อทรัพยากรมนุษย์เป็นลำดับต้นๆ และมีบริษัทจำนวนมากขึ้นที่จะให้สิทธิประโยชน์ที่มากกว่าการดูแลสุขภาพขั้นพื้นฐาน ทดลองวิธีการใหม่ๆ สำหรับการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่และการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานที่จะช่วยให้พนักงานอยู่รอดและก้าวหน้าในสถานที่ทำงาน จะมีความพยายามที่เพิ่มขึ้นในการตีความและตีค่าทรัพยากรมนุษย์ และเราก็ยังคาดหวังที่จะได้เห็นความแข็งแกร่งและการตระหนักรู้ที่เพิ่มขึ้นต่อกรอบการทำงาน เราจะได้เห็นบริษัทจำนวนมากที่โฟกัสลงไปที่การเก็บข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำและการรายงานที่โปร่งใส สามารถตอบโจทย์ความคาดหวังของเหล่าผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้
อ้างอิง https://trends.sustainability.com/2020/human-capital/